แม้จะเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันมานี่ แต่ไม่ใช่ผลกระทบในการทำการเกษตรของชาวเกษตรกรซึ่งพืชที่ยังปลูกได้ตลอดปีมีหลากหลายชนิดหลายสายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น แตงกวาญี่ปุ่น
ชื่อสามัญ Japannese cucumber
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cucumis sativas
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ :
ลักษณะทั่วไป แตงกวาญี่ปุ่นจัดอยู่ในตระกูล Cucurbitaceae มีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียและแอฟริกา เป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นเป็นเถาเลื้อย มีความยาวตั้งแต่ 40 เซนติเมตรขึ้นไป ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนปกคลุมขึ้นอยู่ทั่วไป มีระบบรากเป็นรากแก้ว ใบเป็นใบเดี่ยว มีมุมแหลม ใบมีขนปกคลุม แตงกวามีดอกตัวผู้และตัวเมียในต้นเดียวกัน แต่จะแยกกัน ดังนั้นจึงต้องใช้ผึ้งช่วยผสมเกสร ดอกตัวผู้จะเกิดเป็นกลุ่ม ส่วนดอกตัวเมียจะเกิดเดี่ยวๆ ดอกมีสีเหลือง ดอกตัวเมียมีลักษณะสังเกตคือ คล้ายแตงกวาผลเล็ก ๆ ตัดกับกลีบดอก ส่วนดอกตัวผู้จะมีเฉพาะก้านดอก ผลแตงกวาอ่อนมีหนามสั้นๆ เมื่อแก่จะหลุดออก ผิวเป็นร่องหรือปุ่ม ผลมีสีเขียวเข้ม เนื้อผลหนาฉ่ำน้ำ เนื้อแน่น กรอบ ไส้ผลมีขนาดเล็กลักษณะคล้าย Jelly
การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร แตงกวามีเอนไซม์อีเรพซิน (erepsin) ช่วยย่อยโปรตีนได้ สรรพคุณของแตงกวา ขับปัสสาวะ แก้ไข้ กระหายน้ำ ใบแตงกวาแก้ท้องเสีย และช่วยลดความดันโลหิตสูง นิยมรับประทานเป็นผักสด แต่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ผัด ต้ม ดอง นึ่ง หรือนำมาคั้นน้ำเป็นเครื่องดื่ม หรือนำมาตกแต่งจานอาหาร
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม :
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการปลูกอยู่ระหว่าง 18 – 24 องศาเซลเซียส ความชื้นในอากาศต่ำ และได้รับแสงอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน การปลูกในฤดูหนาวจะใช้เวลานานกว่าการปลูกในฤดูร้อน หากสภาพอากาศร้อนเกินไปจะมีแต่ดอกตัวผู้ ผสมไม่ติด ทำให้ผลผลิตต่ำ แตงกวาสามารถเจริญได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมคือ ดินร่วนปนทราย ที่มีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย pH ที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 ดินควรมีอินทรีย์วัตถุสูง การระบายน้ำดี มีความชื้นในดินพอเหมาะ น้ำไม่ขังแฉะ เพราะหากน้ำขังจะทำให้เกิดโรคได้ง่าย อย่างไรก็ตามในช่วงการปลูกควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูกาลผลิต
สนใจสอบถามเรื่องการปลูกพืชเกษตรกรรมทุกชนิด สามารถติดต่อสอบถามเราได้ที่
ร้านกรีนนี่ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
โทร. 062-5985383
ID Line : 062-5985383